5 ข้อ แมนยูฟอร์มเหนือชั้นไล่ทุบสเปอร์ส

เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ เริ่มปรับแทคติกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตน โดยเฉพาะในเกมที่เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 2-0 เมื่อวันพุธที่ 19 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าแทกติกของเขายอดเยี่ยมมากเพราะทำให้ “ปีศาจแดง” แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่เหนือชั้นกว่าทีมเยือนตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะที่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือทัพ “ไก่เดือยทอง” ก็ยอมรับว่าทีมของพวกเขาสู้ไม่ได้จริงๆ

  1. ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ แมนยู

สามเดือนของฤดูกาล 2022/2023 สไตล์การเล่นของ เอริก เทน ฮาก เริ่มแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเล่นเพรสซิ่งดุดันวิ่งไม่มีหยุด และไม่ผ่อนเกมเกม จึงทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อันตรายยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

ตั้งแต่ “ปีศาจแดง” เปิดฤดูกาลนี้จนมาถึงเกมล่าสุดกับ สเปอร์ส ต้องยอมรับว่าการทุบ “ไก่เดือยทอง” เป็นการโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดของ แมนยู จริงๆทั้งการครองบอล, การเพรสซิ่ง และการสร้างโอกาสในการทำประตู เจ้าบ้านเหนือกว่าชัดเจน

จากสถิติในการสร้างโอกาสยิงของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีถึง 29 ครั้ง เข้ากรอบ 10 ครั้ง และได้ 2 ประตู ต้องบอกเลยว่านี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของทัพ “ปีศาจแดง” ภายใต้การกุมทีมของ เทน ฮาก

สิ่งที่แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ประทับใจไม่ใช่แค่ชัยชนะเท่านั้น แต่เป็นการเล่นเกมเพรสซิ่งของทีม ซึ่งพวกเขาวิ่งไล่กดดันเข้าไปในแดนคู่แข่ง จนทำให้นักเตะ สเปอร์ส เล่นผิดพลาด 

ฉะนั้นหาก เทน ฮาก สามารถที่จะปั้นทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ให้เล่นได้ตามแนวทางที่เขาต้องการได้ ในระยะยาว พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่ต่อกรยากสุดๆ

 

  1. คอนเต้ วางแผนผิดพลาด

สเปอร์ส เป็นทีมที่เล่นระบบ 3-4-3 มาตลอดนับตั้งแต่ที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุมทัพ แต่ในเกมที่มาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่รู้ว่า กุนซือชาวอิตาเลียน คิดยังไงถึงเปลี่ยนแผนโดยเล่นแพ็คแดนกลางให้แน่นด้วยแท็กติก 3-5-2

แม้ว่าการเพิ่มผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์ดูเหมือนจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นในแดนกลาง แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องเจอกับความยากลำบากในการคุมเกม มีหลายครั้งที่ “ไก่เดือยทอง” ต้องเจอปัญหาในการพาพื้นที่ว่างในการผ่านบอล จนทำให้ขึ้นเกมรุกไม่ได้เลย

จะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาโดนบีบให้ต้องเล่นในแดนตัวเองเยอะมาก แถมการสร้างโอกาสในการทำประตูก็แทบไม่ค่อยมี โดยสถิติแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทีมเยือนสร้างโอกาสยิงได้แค่ 9 ครั้ง และเข้าเป้า 2 ครั้งเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นการที่ เคน กับ ซน ฮึน-มิน ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ยิ่งทำให้ทีมยากที่จะเจาะแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งนับวันยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นการปรับแท็กติกในเกมนี้ถือเป็นความผิดพลาดของ คอนเต้ จริงๆ 

 

  1. มาติเนซ เอา เคน อยู่หมัด

แฮร์รี่ เคน กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มในซีซั่นนี้ แต่สำหรับในกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวไม่สามารถเล่นได้อย่างที่ใจต้องการเลย เนื่องจาก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ตามประกบติดจนแทบไม่มีโอกาสได้ง้างเท้ายิงเลย

จะเห็นได้ชัดว่าทุกครั้งที่กัปตันทีมชาติอังกฤษได้บอล มาร์ติเนซ จะรีบเข้ามาปิดทันที และทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสได้คิด หรือจะทำอะไร จนสุดท้ายก็เสียบอล หรือเสียจังหวะการเล่น สำหรับตอนนี้เห็นได้ชัดว่า อดีตแข้งอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับเกมลีกเมืองผู้ดี และทุกครั้งที่จับคู่กับ ราฟาแอล วาราน ยิ่งทำให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า 

 

  1. เฟร็ด ได้รับโอกาศและเขาทำได้

เกมที่แล้ว สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ติดโทษแบน ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น เล่นไม่ได้เนื่องจากมีอาการป่วย ทำให้ เอริก เทน ฮาก เลือกใช้งาน เฟร็ด เป็นตัวจริงเป็นเกมแรก นับตั้งแต่ที่ฟอร์มออกทะเลในเกมแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ทำให้โดนสาวก “เร้ด อาร์มี่” จวกยับกับฟอร์มของ มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า

สำหรับเกมเจอกับ สเปอร์ส หลายคนคิดว่า กุนซือชาวดัตช์ คงดร็อป เฟร็ด เพราะ แม็คโทมิเนย์ พ้นโทษแบนแล้ว ส่วน เอริคเซ่น ก็กลับมาฟิต แต่สุดท้ายเขาเลือกให้โอกาส เฟร็ด และก็ไม่ผิดหวัง เพราะเกมกับ “ไก่เดือยทอง” นักเตะเล่นได้อย่างโดดเด่น ทั้งยิงประตู และมีส่วนกับประตูที่สอง 

ยิ่งไปกว่านั้นการเล่นร่วมกับ กาซีมิโร่ ยิ่งทำให้ เฟร็ด ยกระดับฝีเท้ามากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ สเปอร์ส ไม่สามารถรับมือกับเกมเพรสซิ่งของ “ปีศาจแดง” ได้เลย ทำให้แดนกลางเป็นรองเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด

ส่วน เฟร็ด มีส่วนในการตัดบอลจากทีมเยือนได้บ่อยครั้ง แถมยังเล่นทุ่มเททุกจังหวะเพื่อหวังพิสูจน์ให้แฟนบอล และกุนซือได้เห็นว่าเขาคู่ควรกับทีมชุดนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับ เทน ฮาก ที่เชื่อมั่นในตัวนักเตะจนในที่สุดก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า 

 

  1. โรนัลโด้ หมดอนาคมกับ แมนยู

เกมนี้ เทน ฮาก แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักของทัพ “ปีศาจแดง” ในยุคของเขาแน่นอน หลังจัดการจับนักเตะอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองอีกครั้ง 

การกระทำของ เทน ฮาก เป็นการบ่งบอกว่า ดาวเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยไม่ใช่ตัวเลือกแรกในแผนการสร้างทีมของเขา เพราะถ้า มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ฟิตสมบูรณ์ ตำแหน่งที่ โรนัลโด้ จะได้รับก็คือเป็นตัวสำรองเท่านั้น 

ส่วนในกรณีที่ โรนัลโด้ จะได้ลงตัวจริงก็คือ แรชฟอร์ด และ มาร์กซิยาล ไม่สามารถลงเล่นได้ และอีกกรณีก็คือต้องไปเล่นในเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก 

ยิ่งในเกมที่ชนะ “ไก่เดือยทอง” โรนัลโด้ ได้แต่นั่งดูเพื่อนร่วมทีมโชว์ฟอร์มอย่างสุดยอดตั้งแต่ต้นเกม จนใกล้จบเกม และเจ้าตัวคงทนดูไม่ไหว รีบลุกเดินเข้าไปในอุโมงค์ทั้งที่เกมยังไม่จบ

 การแสดงพฤติกรรมแบบนี้น่าจะเป็นการยืนยันเจนแล้วว่า โรนัลโด้ ไม่ต้องการอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกต่อไป ขณะที่ เทน ฮาก ก็คงไม่แคร์เพราะว่าทีมชุดนี้ไม่จำเป็นต้องมี กัปตันทีมชาติโปรตุเกส อีกต่อไป

ติดตามข่าวเพิ่มเติม : เว็บข่าวกีฬาออนไลน์

บรูโน่เร้าแข้งแมนยู ไม่ต้องสนทีมอื่นมีสมาธิกับตัวเองพอ

บรูโน่เร้าแข้งแมนยู มิดฟิลด์แมนยูกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมว่าควรให้ความสำคัญเรื่องแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองก็พอเพราะหลายปีที่ผ่านมาแข้งปีศาจแดงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับทีมอื่นมากเกินไป

บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมว่า พวกเราควรจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกินขึ้นกับทีมของเรามากกว่า ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของทีมอื่น

ในเกมนัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบหน้าผิดหวังจนพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-6 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทัพ “ปีศาจแดง” กำลังเรียกฟอร์กลับคืนมาหลังเอาชนะในเกมลีกได้ถึง 4 เกมติดต่อกัน จึงทำให้กุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก แพ้ในเกมลีกไปแล้ว 3 นัด หลังจากที่เพิ่งเล่นมาเพียง 7 นัดเท่านั้น

บรูโน่ กล่าวว่า “เราทำการประชุมทีมกัน เราไล่ดูสิ่งที่แย่ๆ และพวกความผิดพลาดของเรา หลังจบเกมไปแล้ว ผมพูดว่าเราเสีย 3 ประตูในจังหวะสวนกลับเร็วให้ทีมที่จริงๆแล้วโดดเด่นในด้านการครองบอล นั่นหมายความว่าเรื่องแบบนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่เรากลับไม่สามารถป้องกันเรื่องแบบนั้นได้”

“เรารู้ว่าความผิดพลาดมันคืออะไร และเราจะทำพลาดอีกไม่ได้ เราไม่จำเป็นต้องพุ่งสมาธิไปที่ใครหน้าไหนทั้งนั้น เราต้องมีสมาธิกับตัวเราเอง ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านี้เราอยากเปรียบเทียบตัวเราเองกับทีมอื่นๆ ซึ่งนั่นเป็นปัญหาของสโมสรในช่วงที่ผ่านมา”

“เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อสโมสรแห่งนี้ เพราะสโมสรนี้อยากขึ้นไปอยู่จนจุดสูงสุด ซึ่งเราต้องทำอย่างนั้นด้วยตัวของเราเอง เราต้องพิจารณาเรื่องภายในกันและตัดสินใจจากบรรดาปัญหาหรือความผิดพลาดต่างๆ ว่ามันมีอะไรที่เราจะแก้ไขได้บ้าง”

“คุณไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่อยู่นอกเหนือตัวของคุณได้ คุณเปลี่ยนได้แค่สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่กับที่นี่เท่านั้น ซึ่งเราต้องทำแบบนั้นกันแบบวันต่อวัน และในนัดต่างๆ เราเคยทำได้ดีในช่วงก่อนหน้าเกมที่เจอกับ ซิตี้ แน่นอนว่ามันทำให้สถานการณ์มันแย่ลง และเราต้องลุกขึ้นมาแก้ไขกันให้ได้ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อคุณได้ผลการแข่งขันที่ดีแล้วนั้น เราก็จะกลับมาได้ นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

ติดตามข่าวเพิ่มเติม : เว็บข่าวกีฬา