โด้ดั้งแตกเกมโปรตุเกสชนะเช็ก4-0

สตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้รับบาดเจ็บหวิดเสียโฉม ในศึกเนชั่นลีก ระหว่างทีมชาติโปรตุเกสกับสาธารณรัฐเช็ก จังหวะปะทะรุนแรงเกิดขึ้นนาทีที่ 12 ของเกม เมื่อคริสเตียนโน่ โรนัลโด้ กระโดดแย่งชิงบอลกลางอากาศ ก่อนจะถูกท่อนแขนของโทมัส วัคริค นายด่านชาวเช็ก ก่อนลงไปกองกับพื้นพร้อมปรากฎภาพเลือดอายเต็มบใบหน้าอย่างน่ากลัว จนต้องหามออกจากสนามเพื่อปฐมพยาบาลด่วน

ตำนานชาวโปรตุรกรีส ลงไปกองกับพื้นพร้อมมือกุมบริเวณใบหน้า หลังกระแทกเข้ากับท่อนแขนนายด่านชาวเช็กเข้าอย่างจัง หลังจากนั้นไม่นานกล้องจับภาพน่ากลัวกับเลือดที่กำลังไหลโฉกพร้อมแผลฉกรรจ์บริเวณจมูกของโรนัลโด้ ทันทีที่กองหน้าวัย 37 ปี เห็นร่องรอยเลือดของตัวเอง เขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ข้างสนามทันที สภาพแผลฉกรรจ์โรนัลโด้ใครได้เห็นคงคิดว่า สตาร์รายนี้คงต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามก่อนเพื่อน ๆ

แต่สตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงกัดฟันสู้ เขาเร่งทีมแพทย์ปฐมพยาบาลห้ามเลือดอย่างเร่งด่วน เพราะเพื่อนร่วมทีมของเขากำลังเผชิญหน้ากับนักเช็ก 11-10 อย่างต่ำ 5 นาที อย่างไรก็ตามหลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสร็จสิ้น โรนัลโด้กลับลงไปสนามพร้อมมีส่วนช่วยเพื่อนร่วมทีมดาหน้าถล่มประตูเอาชนะสาธารณะรัฐเช็ก 4-0

จบ 90 นาที โรนัลโด้ผิดหวังพร้อมแผลบริเวณจมูกเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่สามารถทำประตูได้ในกรุงปราก แต่แข้งวัย 37 ปี ยังเคยเผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้า เพราะเพื่อนร่วมทีมทั้ง ดีโอโก้ ดาล็อต และบรูโน่ แฟร์นันเดส ต่างมีส่วนร่วมในการทำประตู เรียกความมั่นใจก่อนกลับไปโอล์ด แทร็ฟฟอร์ดอีกครั้ง ด้านดีโอโก้ โจต้า สตาร์ลิเวอร์รับบทกดประตูที่ 4 ช่วงท้ายเกม

เกมในคืนดังกล่าวแม้โปรตุเกสจะมาเยือนกรุงปรากในฐานะทึมเยือน แต่พวกเขากลับครองบอลได้เหนือกว่าทีมเจ้าบ้านอยู่พอสมควร โดยทีมเยือนได้ประตูแรกจากดีโอโก้ ดาล็อตจากการผ่านบอลของราฟาเอล เลเอา ปีกตัวเก่งจากเอซี มิลาน ประตูที่ 2 ได้ประตูจากบรูโน่ เฟอร์นันเดส ช่วงทดเจ็บ ด้านทีมเยือนมีโอกาสตีไข่แตกจากลูกจุดโทษ แต่แพรทริก ชิกกลับสั้งหารพลาด

45 นาที หลังโปรตุเกสทิ้งห่าง 3-0 จากการจ่ายบอลของบรโน่ แฟร์นันเดสให้กับดาล็อตกดประตูที่ 2 กระทั่งนาทีที่ 82 แบ็คขวาตัวกลั่นแมนฯยูไนเต็ดสวมบทแฮตทริกฮีโร่ จบ 90 นาที คว้าลูกบอลกลับบ้านฟรี ๆ เพื่อเป็นหลักฐานผลงานอันยอดเยี่ยม จบเกมดังกล่าวโปรตุเกสรั้งจ่าฝูงของกลุ่มมี 10 แต้ม จาก 8 เกม โปรแกรมนัดถัดไปโปรตุเกสจะกลับไปเล่นในบ้านที่กรุงลิสบอนพบทีมชาติสเปนคืนวันอังคาร

ติดตามฟุตบอล : ทีเด็ดบอลสเต็ป

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสด

ร็อบสันเผยเบลลิงแฮมมีอะไรเหมือนตน

ไบรอัน ร็อบสัน ตำนานสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บ่นเสียดาย หลังอดีตต้นสังกัดไม่สามารถฉกฉวยโอกาสคว้าตัวจู๊ด เบลลิงแฮมเอาไว้ได้ขณะนักเตะยังอยู่กับสโมสรเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ซึ่งในปัจจุบันความเสียดายยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะแนวรุกชาวอังกฤษรายนี้กำลังทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งกับสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมนุด์ รวมถึงมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะหลัก 100 ล้านปอนด์

ครั้งหนึ่งไบร์อัน ร็อบสัน เคยมีโอกาสพูดคุยกับแกรี่ ลินิเกอร์ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษว่า จู๊ด เบลลิงแฮมจะกลายเป็นยอดดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรปได้ในอนาคต โดยในคืนแชมป์เปี้ยนลีกกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ลินิเกอร์กับหน้าที่นักวิเคราะห์เกมUCL แต่เขาต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็นฟอร์มของเบลลิงแฮมแบบเต็ม ๆ เกม กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลางสัปดาห์ทีผ่านมา

“ผมคงจะแปลกใจมากถ้าเบลลิงแฮมไม่มีชื่อลุยฟุตบอลโลก2022กับทีมชาติอังกฤษ” อดีตนักเตะเจ้าของชายากัปตันมาร์เวลล์กล่าว โดยร็อบสันออกความเห็นว่า ดาวรุ่งวัย 19 ปี มีความคล้ายคลึงกับตนอย่างมาก เช่นเดียวกันลินิเกอร์ เขาย้ำว่าดาวรุ่งรายนี้กำลังเป็นที่ต้องการของแมนฯยูไนเต็ด,เชลซี และลิเวอร์พูลอย่างแน่นอนโดยเฉพาะเมื่อทัวร์นาเมนม์ฟุตบอลโลกผ่านไป

“ผมคิดว่าเขามีบางอย่างคล้ายกับผม เขากำลังไปได้ดี เขาพัฒนาทั้งการทำประตู รวมถึงเกมรับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่กองกลางควรเป็น” “ผมมีโอกาสนั่งดูเขาลงเล่นกับแมนฯซิตี้แบบเต็มเกม” ร็อบสันเล่า “เขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้ผมอดเสียดายไม่ได้ เพราะเมื่อ 2-3 ปีก่อนเรามีโอกาสคว้าตัวเขามาร่วมทีม”

“ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงตกเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมใหญ่ นั่นก็เพราะความสามารถมากมายของเขา แน่นอน หากเขายังเดินหน้าทำผลงานได้ดีเหมือนเกมพบแมนฯซิตี้ ผมคิดว่าเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งทีมชาติอังกฤษชุดลุยฟุตบอลโลกที่กาตาร์อย่างแน่นอน” ไบรอัน ร็อบสัน กล่าว

ปัจจุบันโอกาสของเบลลิงแฮมในนามทีมชาติอังกฤษกลับมาอีกครั้ง หลังคาลวิน ฟิลลิปส์ ประกาศถอนตัวทีมชาติเนื่องจากปัญหาหัวไหล่ รวมถึงจอร์แดน เฮนเดอร์สันที่มีปัญหาบริเวณเอ็นร้อยหวาย ดังนั้นโอกาสที่เบลลิงแฮมจะออกสตาร์มเกมพบอิตาลี ในศึกเนชั่นลีกวันศุกร์ และเยอรมันวันจันทร์ค่อนข้างสูง “ดีแคลน ไรซ์เป็นกองกลางที่แข็งแกร่ง และผมคิดว่า ๆ ข้างไรซ์ควรเป็นเบลลิงแฮม ตอนนี้เขาลงเล่นทีมชาติไป 15 เกม และดูเหมือนเรามีอีก 2 เกมให้กับเขา” ร็อบสันกล่าวปิดท้ายหวังว่า แกเร็ธ เซาธ์เกตจะให้โอกาสมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้

ติดตามฟุตบอล : ทีเด็ดบอลสเต็ป10

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสด

คล็อปป์ขอโทษแฟนบอลหลังแพ้นาโปลี

ผู้จัดการชาวเยอรมันเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้ถึง 3 เกมติดต่อกัน นับเป็นผลงานย่ำแย่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่เยอร์เก้น คล็อปป์ ย้ายเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล ซึ่งเกมล่าสุด ลูกทีมคล็อปป์ต้องพบกับฝันร้าย หลังถูกสโมสรนาโปลียำใหญ่ เกมแชมป์เปียนลีก รอบแบ่งกลุ่มเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยผู้จัดการทีมชาวเยอรมันต้องรีบออกมาขอโทษขอโพยแฟนบอลเป็นการใหญ่ หลังทีมทำผลานได้อย่างย่ำแย่

นาโปลีเอาชนะลิเวอร์พูล 4-1 ได้ประตูจาก ปิเตอร์ ซิลินสกี้ (2 ประตู),อังเดร-แฟรงค์ อังกีส์ซ่า และจิโอวานนี่ ซิโมเน่ ขณะที่ทีมเยือนเดอะ เร้ด ได้ประตูปลอบใจ 1 ลูกจากหลุยส์ ดิแอซ ซึ่งอันที่จริงความสูญเสียอาจมากกว่าที่เห็น เนื่องจากวิคเตอร์ โอซิมเฮน ยิงจุดโทษติดเซฟอลิสซอน เบคเกอร์ ขณะตามหลัง 1-0 “มันเป็นการเดินทางที่ยาวไกลระหว่างเมืองลิเวอร์พูลมายังนาโปลี แน่นอนมันเป็นค่ำคืนที่น่าผิดหวังอย่างมาก ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องทำคือ การกล่าวขอโทษแฟน ๆ ” คล็อปป์

“ปัญหาค่อนข้างชัดเจน พวกเราเล่นได้แย่ ขณะที่นาโปลี พวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมกว่าจริง ๆ” “เราเสียจุดโทษ นั่นคือสัญญาณเตือนชัดเจน แต่ทำไมเรากลับไม่สามรถตอบสนองจากความผิดพลาดดังกล่าวได้ ซึ่งจริง ๆ เราทำได้ไม่ดีพอ คำถามคือ ทำไมพวกเขาถึงทำผลานได้อย่างย่ำแย่ ชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของผม เพราะทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งในงานของผม”

“มันอาจจะดูยาก แต่หากคุณได้ดูเกม คุณก็จะรู้ได้ทันที” คล็อปป์กล่าว ก่อนจะถูกสื่อถามว่า เขากังวลเกี่ยวกับอนาคตตำแหน่งผู้จัดการทีมหรือไม่ (ถูกปลด) “ใครจะไปรู้ เพราะเจ้าของสโมสรมีหลากหลายประเภท ขณะที่เจ้าของสโมสรของเราค่อนข้างสงบ เขาไม่เคยโทษใครเลย นอกจากผม เพราะเขาค่อนข้างคาดหวังว่าผมจะสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้”

อย่างไรก็ตามคล็อปป์ยังคงไม่กังวลใด ๆ แม้ทีมกำลังเผชิญผลงานย่ำแย่ โดยลิเวอร์พูลยังไม่ชนะใครเลยในเกมเยือนซีซั่นนี้ “คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นมาก เพียงแค่คุณจำเป็นต้องตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากขึ้นและทันที” “เราจำเป็นต้องปลุกตัวเองขึ้นมาใหม่จากความยากลำบาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งคุณสามารถกลับมาอยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้เสมอ”

“ทุกคนมะกลับมามีความสุข หากเราสามารถกลับไปทำในสิ่งที่เราเคยทำได้ ขณะเดียวกันนาโปลี พวกเขาทำได้ยอดเยี่ยม และดูเหมือนจะเป็นเราเองที่ทำให้พวกเขาเล่นง่ายขึ้น เราเสียบอลในพื้นที่สำคัญบ่อยครั้ง สิ่งที่เราต้องเผชิญหลังจากนั้นคือเกมสวนกลับสุดอันตรายของพวกเขา” เยอร์เก้น คล็อปป์กล่าวหลังเกม สำหรับเกมดังกล่าว นับเป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันที่ทีมลิเวอร์พูล มีอัตราการวิ่งน้อยกว่าคู่ต่อสู้ เกมต่อไปเตรียมพบวูลฟ์ฯ

ติดตามฟุตบอล : ทีเด็ดบอลสเต็ป

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลออนไลน์

ทูเคิลเปิดความรู้สึกหลังถูกปลด

โทมัส ทูเคิล ร่อนจดหมายเปิดผนึก ผ่านตัวหนังสือที่สะท้อนเห็นถึงความเสียใจปะปนความเจ็บปวด หลังผู้จัดการชาวเยอรมัน ถูกโทดด์ โบห์ลีย์ ประธานสโมสรเชลซีปลดสายฟ้าแล้บเส้นเกมแพ้ดินาโม ซาเกร็บ 1-0 กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตบอสใหญ่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เผยว่า มันช่วงเวลาแห่งความผิดหวังครั้งแรกในรอบหลายปีของเขานับตั้งแต่เลือกเดินเส้นทางผู้จัดการทีมเลยทีเดียว

หลังถูกปลดสายฟ้าแล้บไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังแพ้ดินาโมซาเกร็บ รายการแชมป์เปียนลีก 1-0 โทมัส ทูเคิลยังคงนิ่งเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใด ๆ หลังสื่อทั่วโลกประโคมข่าว เขาถูกปลดออกจากตำแหน่ง รายงานเปิดเผยว่า ทูเคิลพยายามข้อร้องเจ้าของทีมชาวอเมริกัน เพื่อให้เขาทำงานในสแตมฟอร์ด บริดจ์ต่อไป และดูเหมือนว่า โบห์ลีย และทีมงานของโบห์ลีย์ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันหมดโอกาสนั้นแล้ว

คำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้ทูเคิลกลายเป็นผู้จัดการว่างงาน พร้อมรับเงินค่ายกเลิกสัญญากว่า 13 ล้านปอนด์กลับบ้านพร้อมเหรีญชนะเลิศแชมป์เปียนลีกปี 2020 ไว้แค่เพียงความทรงจำ “นี่เป็นการเรียงความยากที่สุดที่ผมเคยทำมา ซึ่งผมหวังว่า ผมคงหวังว่าคงไม่ต้องกลับมาทำมันอีกในหลาย ๆ ปีนับจากนี้” “ก่อนอื่น…ผมเสียใจที่เวลาของผมกับเชลซีได้จบลงแล้ว เพราะที่นั้นคือสโมสรที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่ว่าจะในแง่อาชีพการงานหรือเรื่องส่วนตัว”

“ผมขอขอบคุณเหล่าสต๊าฟฟ์ นักเตะ และแฟนบอลที่คอยสนับสุนผมมาตั้งแต่ต้น แน่นอนว่าความภูมิใจของผมคือการพาทีมคว้าแชมป์เปียนลีกส์ และคลับเวิลด์ คัพ ซึ่งมันจะอยู่ในใจของผมตลอดไป” “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ และไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ความทรงจำตลอด 18 เดือนที่ผ่ามนาจะอยู่ในห้องใจส่วนลึกที่พิเศษของผมเสมอ” โทมัส ทูเคิล เผยความรู้สึกครั้งแรกหลังถูกปลดจากเชลซี

หลังการปลดทูเคิล เดอะ บลูส์ เชลซีไม่รอช้า พวกเขาไม่ลังเลในการจ่ายเงินชดเชยกว่า 13 ล้านปอนด์ รวมถึงการจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาเกือบ 20 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวแกรม พอตเตอร์มาจากสโมสรไบรท์ตัน โดยพอตเตอร์เซ็นสัญญารับงานต่อจากทูเคิล ระยะเวลา 5 ปี รับค่าจ้างปี 10 ล้านปอนด์ การันตีเงิน 50 ล้านปอนด์เข้ากระเป๋า

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า โบห์ลีย์ค่อนข้างประทับใจ ผู้จัดการทีมวัย 47 ปีรายนี้อย่างมาก เนื่องจากเจ้าของคนใหม่เชลซีมองว่า พอตเตอร์คือนักบริหารงานด้านกลยุทธ์ยอดเยี่ยม และพอตเตอร์ยังเป็นนักบริหารทรัพยากรบุคคลที่ไม่เหมือนใครอรกเช่นกัน เกมแรกของพอตเตอร์ เตรียมพบลิเวอร์พูลสแตมฟอร์ด บริดจเป็นเกมแรก หลังพรีเมียร์เลื่อนเพื่อไว้อาลัย การสิ้นพระชนม์ควีนอลิซาเบธที่ 2

ติดตามฟุตบอล : ทีเด็ดฟุตบอล

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสด

ทูเคิ่ลกับสถิติย่ำแย่ก่อนถูกปลด

โทมัส ทูเคิล ถูกสโมสรเชลซีปลดออกจาตำแหน่งผู้จัดการทีม เพียงไม่กี่ชั่วโมงช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ หลังสโมสรเดอะบริดจ์ต้องพบกับความพ่ายแพ้อีกครั้ง ในเกมเปิดหัวรอบแบ่งกลุ่มแชมป์เปียนลีกกับดินาโม ซาเกร็บ 1-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยอดีตบอสปารีส แซง แชร์งแมง ถือเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 2 ที่ถูกปลดออกจากพรีเมียร์ชิพอังกฤษต่อจากสกอต ปาร์คเกอร์ อย่างไรก็ตามสถิติชี้ทูเคิลเก็บแต้มรั้งท้าย ในประวัติศาสตร์สโมสร

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังลูกทีมเดอะบลูส์ของทูเคิล แพ้ให้กับดินาโมซาเกร็บ รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกรายการแชมป์เปียนลีกเมื่อที่ผ่านมา โดยผลงานชิ้นโบว์แดงของผู้จัดการชาวเยอรมันคือ แชมป์เปียนลีกสมัยที่ 2 ของสโมสร ฤดูกาล 2020-21 แต่ผลงานเกมลีกของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก และนั่นดูเหมือนจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผู้จัดการวัย 49 ปี ต้องตกงานในที่สุด

สถิติชี้ให้เห็นว่า ตลอด 63 เกมลีกที่ทูเคิลลงคุมทีมข้างสนาม เดอะ บลูส์ เชลซี เก็บชัยชนะได้เพียง 35 เกม เสมอ 17 และแพ้ถึง 11 เกม หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความ อดีตบอสปารีส แซง แชร์งแมง มีอัตราชนะ 55.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หรือคิดเป็น 1.94 คะแนนต่อเกม สถิติดังกล่าวนับว่าย่ำแย่อย่างมาก โดยเฉพาะกับทีมชั้นแนวหน้าอย่างเชลซี

สำหรับอัตราค่าเฉลี่ยชนะ ทูเคิลทำได้แย่กว่า หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ และราฟาเอล เบเนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมเชลซีที่เคยย้ายมาคุมทีมเพียงระยะสั้น ๆ  โดยสโคลารี ผู้จัดการทีมบราซิเลียน ทำได้ 56 เปอร์เซ็นต์จาก 25 เกมคุมทีม หรือ 1.96 คะแนนต่อเกม ด้านเบเนิเตซ อดีตเอสบอสชาวสเปน สถิติชนะ 57.7 เปอร์เซ็นต์ จาก 26 เกม เฉลี่ย 1.96 คะแนนต่อเกม และนั่นส่งผลให้ทูเคิล รั้งอันดับ 8 จากผู้จัดการทีมเชลซีทั้งหมด ในแง่จำนวนแต้ม

ด้านอัฟราม แกรนท์ อดีตบอสชาวอิสราเอล นอนมาอันดับ 1 แบบสุดเซอร์ไพรส์ ของทีมที่สามารถทำผลงานได้ดี โดยสมัยที่แกรนท์คุมเชลซี โอกาสชนะของเขาสูงถึง 68.8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2.31 คะแนนต่อเกม ด้านโจเซ่ มูรินโย่ ตำนานผู้จัดการของทีม รั้งอันดับ 2 กับโอกาสชนะ 66 เปอร์เซ็นต์ และ 2.19 คะแนนต่อเกม ขณะที่อันโตนิโอ คอนเต้ ตามมาอันดับ 3 กับ 67.1 เปอร์เซ็นต์ และ 2.14 คะแนนต่อเกม

คนอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้แก่ คาร์โล อันเชล็อตติ 76 เกม หรือ 2.07 คะแนนต่อเกม,กุส ฮิดดิ้ง 34 เกม 1.94 คะแนนต่อเกม,โทมัส ทูเคิล 63 เกม 1.94 คะแนนต่อเกม,เมาริซิโอ ซาร์รี่ 35 เกม 1.89 คะแนนต่อเกม และโรเบอร์โต ดิ มัตเตโอ 23 เกม 1.83 คะแรรต่อเกม

ติดตามฟุตบอล : ทีเด็ดฟุตบอล

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสด