ผลงานช่วงโค้งสุดท้ายอันยอดเยี่ยมของฤดูกาลของคัลลัม วิลสัน เพียงพอต่อการกลับมามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกองหน้า เดอะแม็กพายส์ หวังว่าผลงานของเขากับเดอะทรีไลอ้อนส์จะออกมาดีพอ ติด 1 ใน 27 คนของแกเร็ธ เซาธ์เกต อย่างไรก็ตามกว่ากองหน้าชาวอังกฤษของนิวคาสเซิ่ลกลับมามีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งไม่ใช่เรื่อง่าย ๆ เพราะกองหน้ารายนี้ต้องเดินทางไปกลับบ้านไกลถึง 700 ไมล์ ระหว่างบ้านและต้นสังกัด

คัลลัม วิลสันออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อย่านไทด์ไซน์ หลังเขากลับมามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง ขณะเดียวกันเจ้าตัวยอมรับว่าเขามีอะไรอีกมากต้องพัฒนา หากหวังผ่านการตัดตัวตีตั๋วลุยฟุตบอลโลก 2022ที่กาตาร์ปลายปีนี้ แต่วิลสันไม่มีทางเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างแน่นอน หากเขาล้มเลิกความฝัน โดยช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2021/22 นิวคาสเซิ่ลของวิลสัน กำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ชนะใครเลยจนถึงเดือนพฤศจิกายน และการมาของประธานสโมสรและเอ็ดดี้ฮาวน์ และนับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมาจนถึงเกมนัดสุดท้ายกับเบิร์นลี่ย์ กองหน้าชาวอังกฤษคือส่วนสำคัญในการพาทูนอาร์มี่อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงูสุด

อย่างไรก็ตามปัญหาที่คอยหน่วงเหนี่ยวฝีเท้าของวิลสันก็คือ อาการบาดเจ็บแฮมสตริง โดยแข้งวัย 30 ปี ลงสนามเพียง 39 เกม นับตั้งแต่เขาย้ายมาจากเอเอฟซี บอร์นมัธเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน แข้งชาวอังกฤษสัมภาษณ์กับเดอะ ซัน เปิดเผยเรื่องราวที่เขาต้องเผชิญ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา กระทั่งการกลับมามีชื่อติดธงเดอะทรีไลอ้อนส์ลุ้นติดทีมไปบอลโลกที่กาตาร์ ฤดูหนาวนี้

“ความฟิตเป็นเรื่องที่ผมต้องพัฒนา” กองหน้าวัย 30 ปี กล่าว “มันน่าผิดหวัง ครั้งหนึ่งผมเคยลองวางแผนหาอะไรทำหากต้องหยุดลงสนาม ซึ่งผมรู้ดีว่ามันโอกาสเพียงเล็กน้อยที่กลับมามีส่วนร่วมกับทีมให้มากกว่าที่ควร” วิลสันเงียบหลัง 5 วินาทีหลังจากพูดเสร็จ ผู้สื่อข่าวถามกลับทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณจากนั้น เขาตอบ “ผมกำลังคิดอยู่ว่าสมควรที่จะพูดมันหรือไม่” กระทั่งเขาตัดสินใจพูด  เช็คผลบอล

“ตอนนี้ว่ากันตามตรง ครอบครัวของผมอยู่ที่ โพล(Poole)ย่านดอร์เซต ผมเดินทางไปมาตลอดเพื่อต้องการอยู่กับพวกเขาหลังจบเกม หรือในช่วงวันหยุด บางทีนั่นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เราแพ้บ่อยในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา” “ผมเคยวางแผนย้ายพวกเขามาอยู่กับผมที่นิวฯ นั่นก็เพื่อลดระยะเวลาการเดินทาง รวมถึงวันพักผ่อนของผมเพื่อนำเวลาเหล่านั้นไปใช้ในโรงยิมหลังฝึกซ้อม”

ปัจจุบันดูเหมือนนักเตะชาวอังกฤษ เริ่มกลายเป็นที่นิยมส่งออกสู่ลีกต่างประเทศมากขึ้น อาทิ จู๊ด เบลลิ่งแฮม และแทมมี่ อับราฮัม เหล่าผู้เล่นวัยหนุ่มจากสหราชอาณาจักรสู่ความท้าทายด้วยออกไปเผชิญหน้ากับลีกต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม 2 ประตูเกมลีกเมื่อคืนที่ผ่านมาของ อับราฮัมดีพอขึ้นแท่นกลายเป็นดาวยิงสูงสุดจากเกาะอังกฤษที่สามารถยิงได้มากที่สุดในลีกอิตาลี 17 ประตูในฤดูกาลแรกของเขา

แทมมี่ อับราฮัม กลายเป็นดาวยิงสูงสุดชาวอังกฤษของลีกกัลโช่เซเรียอา อิตาลีเท่าที่เคยมีมา ปัจจุบันอดีตดาวยิงจากลอนดอนตะวันตก ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถพาต้นสังกัดจบฤดูกาลด้วยการการันตี โควตายูโรปาลีกซีซั่นหน้า รวมถึงเข้าชิงรายคอนเฟอเรนซ์ลีก เช่นกัน สำหรับอับราฮัมนับเป็นฤดูกาลแรกที่เข้าย้ายมายังกรุงโรม อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มจากลอนดอนกดไป 26 ประตูรวมทุกรายการ แบ่งเป็น 17 ลูเกมลีก

เกมกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนที่ผ่านมา อาเอสโรม่าของอับราฮัมเอาชนะ โตริโน่ 3-0 ชัยชนะดังกล่าวสามารถการันตีพื้นที่ยูโรปาลีกให้กับทีมของโจเซ่ มูรินโย่ฤดูกาลถัดไปทันที อย่างไรก็ตาม ยอดทีมกรุงโรมมีโปรแกรมนัดชิงชนะเลิศคอนเฟอเรนซ์ลีกรออยู่ แต่สำหรับอับฮัมเกมเมื่อคินที่ผ่านมาที่เมืองตูริน เมื่อโรม่าต้องออกไปเยือนโตริโน่ กองหน้าทีมชาติอังกฤษบวก 2 ประตูจากความผิดพลาดจากแนวรับเจ้าบ้าน

อับราฮัมยิงประตูแรกนาทีที่ 33 จากลูกแอสซิสของเปเยกรินี่จากความผิดพรากกองหลังโตริโน่ ก่อนหมดครึ่งแรกไม่นาน อับราฮัมมาบวกประตู 2 เมื่องริคาร์โด้อีวาน โรดิรเกซ ฟูลแบ็คโตริโน่เข้าบ้านโฉ่งฉ่างในกรอบเขตโทษ จนเอทริต เบริช่า ผู้เล่นรักษาประตูจำเป็นต้องออกมาแก้ไข แต่ดันสกัดพลาดโดนตัวกองหน้าชาวอังกฤษล้มลงจนเสียจุดโทษ สุดท้ายเป็นอับราฮัมลุกขึ้นสังหารไม่พลาดก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที 2-0

2 ประตูกัลโช่ฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้แทมมี่ อับราฮัมกลายเป็นแข้งชาวอังกฤษที่ยิงประตูได้สูงสุดตลอดกาลในลีกัลโช่ เซเรียอาทันที ขณะเดียวรายชื่อนักเตะชาวอังกฤษคนอื่น ๆ ที่เคยมีโอกาสบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาค้าแข้งที่อิตาลีได้แก่ เทรเวอร์ ฟรานซิส 18 ประตู/88เกม,เจอร์รี ฮิตเชนส์ 58 ประตู/205เกม สำหรับรายหลังเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษเพียงคนเดียวที่ยังคงยิงได้เยอะกว่าอับราฮัมที่ 17 ประตูจาก 37 เกม แต่สถิติโดยรวมของอับราฮัมกลับดีกว่ามาก ๆ 

อย่างไรก็ตาม 3 แต้มเหนือโตริโน่ นับเป็นชัยชนะครั้งแรกในรอบหลายเดือนของโจเซ่ มูรินโย่เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามโรม่าเตรียมจบอันดับที่ 6 พร้อมโควตายูโรป้าลีกฤดูกาลหน้า ขณะเดียวกันพวกเขาเตรียมลงเล่นนัดชิงยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีกพบกับ เฟเยนูร์ดวันพุธนี้

ติดตามฟุตบอล : แจกฟรีทีเด็ดบอล

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสด365

ราล์ฟ รังนิค และบรรดาผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเตรียมทีมฝึกซ้อมในแคร์ลิงตัน เมืองแมนเชสเตอร์ สำหรับเกมสุดท้ายในฐานะเฮ้ดโค้ช รายงานเปิดเผยว่า ผู้จัดการชาวเยอรมันเตรียมส่งผู้เล่นดาวรุ่งลงสนามเกมส่งท้ายวันที่อาทิตย์นี้กับคริสตัล พาเลซที่เซลฟ์ เฮิร์ทพาร์ค โดยแฮร์รี่ แม็คไกวร์จะหวนสู่ทีมพร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกครั้ง ขณะเดียวกันดาวรุ่งแมนฯยูไนเต็ด ลูกชายแท้ ๆ ร็อบบี้ ซาเวจเปิดเผยเรื่องราวภายในแคมป์ผ่านสื่อโซเชียล หลังมีโอกาสได้พูดคุยกับรุ่นพี่ร่วมทีมอย่างคริสเตียนโน่ โรนัลโด้

ช่วงสายศูนย์ฝึกแคร์ลิงตัน เมื่อราล์ฟ รังนิคกำลังเตรียมทีมลงสนามเกมนัดส่งท้ายของฤดูกาล 1 ในผู้เล่นที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะได้ลงสนามเกมลีกเป็นครั้งแรกก็คือ ชารี ซาเวจ นักเตะดาวรุ่งแมนฯยูไนเต็ดวัย 19 ปี ลูกชายแท้ ๆ ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตกองกลางเลือดร้อนแบล็คเบิร์นฯ โดยหลังการซ้อมเตรียมทีมชุดใหญ่ ดาวรุ่งวัย 19 ปี โพสภาพร่วมซ้อมกับรุ่นพี่คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เจ้าหนูชารี ซาเวจ โพสภาพพร้อมข้อความลงบนทวีตฯส่วนตัวว่า “การเรียนรู้มีอยู่เสมอ (อีโมจิยิ้ม)” สำหรับประวัติย่อ ๆ คุณพ่อร็อบบี้ ซาเวจนั้นไม่ธรรมดา เพราะซาเวจเคยค้าแข้งหลายสโมสร เช่น เลสเตอร์,แบล็กเบิร์น,เบอร์มิงแฮม,ดาร์บี้ฯ เป็นต้น อย่างไรก็ตามตัวซาเวจวัย 47 ปี เองนั้นเล่นโซเชียล ก่อนจะมีโอกาสดูและตอบกลับทวีตลูกชายผ่านคลิปวีดีโอดังกล่าวที่เผยให้เห็นลูกขายหัวแก้วหัวแหวนกำลังเดินลงสนามซ้อมร่วมกับคริสเตียนโน โรนัลโด้ และดูเหมือนทั้งสองมีการพูดคุยกันบางอย่าง…

ขณะเดียวกันร็อบบี้ ซาเวจ กล่าวติดตลกต่อคลิปวีดีโอลูกชายดังกล่าวว่า “ผมเดาว่าโรนัลโดกำลังบอกลูกชายผมว่า พ่อแกเคยไล่เตะฉัน” ซาเวจโพสเน้นฮา กลับมาที่ตัวเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ปัจจุบันคาดว่าซาเวจจูเนียร์มีโอกาสลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดส่งท้าย โดยก่อนหน้านั้นเขาได้รับโอกาสจากรังนิคลงเล่นเกมเสมอยัง บอยส์ 1-1 ที่โอล์ดแทร็ฟฟอร์ด ธันวาคมที่ผ่านมา

ท่ามกลางข่าวลือมากมายว่าโรนัลโด้เตรียมลาทีม หากพลาดแชมป์เปี้ยนลีก แต่ข่าวดังกล่าวยุติลง เมื่อเอริค เทน ฮาค ว่าที่ผู้จัดการคนใหม่ออกมาการันตีอนาคตสตาร์วัย 37 ‘ยูไนเต็ดรอบล้อมไปด้วยผู้เล่นดี ๆ มากมาย เราจำเป็นต้องทำให้พวกเขากลับมาเป็นทีมอีกครั้ง และแน่นอน โรนัลโด้เขาคือบิ๊กเนมที่นั่น” ตัวโรนัลโด้เองได้ให้สัมภาษณ์ถึงผู้จัดการชาวดัตช์เช่นกัน “สิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับเขาคือ เขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม เขาทำผลงานไว้มากมายกับอาแจ๊ก เราต้องการประสบการณ์เขา และเราต้องให้เวลากับเขา”

ติดตามฟุตบอล : แจกทีเด็ดบอล

ติดตามผลบอลเพิ่มเติม : ผลบอลสดล่าสุด

สโมสรอาร์เซน่อลชวดโอกาสคว้าตั๋วลุยแชมป์เปี้ยนลีกก่อนจบฤดูกาล หลังพวกเขาแพ้ให้กับท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส ในศึกนอร์ธลอนดอน 3-0 แบบราบคาบ เนื่องจากร็อบ โฮลดิ้ง กองหลังเดอะกันเนอร์ถูกใบแดงไล่ออกตั้งแต่ครึ่งแรก หลังจบเกมอดีตแฟนคลับปืน รวมถึงตำนานสโมสร ออกมาแสดงความเห็นผ่านโลกโซเชี่ยลกันอย่างเนื่องแน่น แต่ทั้งหมดมีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ ผิดหวัง ! อาทิ ตามอร์แกนแฟนเดนตายปืนโต

เพียร์ส มอร์แกน เดอะกันเนอร์พันธุ์แท้ รู้สึกผิดหวังกับผลงานทีมเชียร์ของเขาในศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อบทสรุปของเกมจบลงตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อร็อบ โฮลดิ้งถูกใบแดงไล่ออกตั้งแต่ไก่โห่ ส่งผลให้เจ้าบ้านที่มีผู้เล่นมากกว่าดาหน้าไล่ยิง 3 ประตูรวด ในระยะเวลาเพียง 47 นาทีเท่านั้น โดยลิลลี่ ไวท์ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจุดโทษของแฮร์รี่ เคน หลังเซดริก โซอาเรส ทำฟาวล์ซอน เฮือน มินในกรอบเขตโทษ

ขณะที่มอร์แกนเริ่มบรรจงนิ้วตนเองลงไปบนคีย์บอร์ดเพื่อระบายความรู้สึกคับข้องใจลงบนทวีตฯส่วนตัว โดยเน้นโจมตีมิเกล อาร์เตต้าผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล แฟนบอลชื่อดังรายนี้ดูเหมือนหัวร้อนสุด “แฟนอาร์เซน่อลที่ชื่นชอบอาร์เตต้า ช่วยเข้ามาเตือนสติผมหน่อยได้ไหมว่าเพราะอะไรเราถึงควรไว้วางใจผู้จัดการคนนี้ให้บริหารทีม รวมถึงเขายังผลาญงบไปกว่า 250 ล้านปอนด์ในช่วงเวลาเพียง 2 ปี”

มอร์แกนร่ายต่อ “เขาส่งกองหน้าที่ดีที่สุดของเราให้กับบาร์เซโลน่า ขณะที่เขากลับแพ้ถึง 5 จาก 10 เกมลีกหลังสุด ผมไม่เขาใจว่าเขาจะอยู่ไปเพื่ออะไรอีก ดังนั้นผมคือ 1 ในคนที่พร้อมเรียกร้อง” อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นระหว่างเกม มอร์แกนได้คว้าโทรศัพท์คืนมาโพสข้อความหลังทีมเชียร์ถูกเคนยิงประตูขึ้นนำจากจุดโทษ เขาโพสตัวย่อ FFS พร้อมอีโมจิหน้าโกรธ 8 ตัว

ด้านเรย์ พาร์เร่อร์ ตำนานกองหลังอาร์เซน่อล ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเกมแพ้ยับ 3-0 เมื่อคืนที่ผ่านมาเช่นกันว่า หวังว่าเกมนี้จะไม่กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอาร์เซน่อล “โชคยังดีสำหรับเพียร์สที่สเปอร์สยิงถล่มเพียง 3-0 ในครึ่งแรกเท่านั้น”

สำหรับอันดับตารางคะแนน หลังท็อตแน่มฯชนะอาร์เซน่อล 3-0 เดอะกันเนอร์ยังคงรั้งอันดับ 4 แต่ช่องว่างระหว่างคะแนนเหลือเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ขณะเดียวกันพวกเขาเหลือเกมให้แข่งขันอีกเพียง 2 เกมเท่านั้น โดยทีมของมิเกล อาร์เตต้า มี 2 เกมหินรอพวกเขาอยู่ทั้ง นิวคาสเซิ่ล และเอฟเวอร์ตัน ด้านทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ เตรียมเล่นในบ้านพบเบิร์นลีย์ และนอริช 2 ทีมหนีตกชั้น นับเป็นงานหนักสำหรับเดอะกันเนอร์

จะเกิดอะไรขึ้นหาก เยอร์เก้น คล็อปป์ และเป๊ป กวาดิโอล่ามีโอกาสเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ในเกมเพลย์ออฟตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันทั้งสองยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ทั้ง ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างกำลังต่อสู้แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างดุเดือดแบบไม่เคยมีมาก่อนในช่วงหลายฤดูกาลหลัง อย่างไรก็ตามพรีเมียร์ลีกอังกฤษอาจเกิดเกมเพลย์ออฟตัดเชือกประวัติศาสตร์ หรือ 3 วันก่อนการแข่งขันชิงแชมป์เปี้ยนลีก ภายใต้เงื่อนไขเดียว !

กฎพรีเมียร์ลีกระบเอาไว้ว่า หากทั้งสองทีมมีแต้มเท่ากัน,ลูกได้เสียเท่ากัน และผลการแข่งขันตลอดทั้ง 2 เกมไป-กลับดันเสมอกัน จำเป็นต้องทำการแข่งขันหาผู้ชนะ หรือการแข่งขันแบบเพลย์ออฟเพื่อตามหาผู้ชนะแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021/22 ภายใต้เงื่อนไขผลเสมอข้างต้น โดยผลการแข่งขันของทั้งสองทีมไปกลับระหว่างแอนด์ฟิลด์และเอติฮัต สเตเดี้ยมพวกเขาผลัดกันเสมอที่ 2-2 เงื่อนไขดังกล่าวถือเสมอกัน

ขณะเดียวกันซิตี้กลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้ง ในช่วง 5 เกมที่ผ่านมา ขณะที่ลิเวอร์พูลทำได้เพียงแบ่งคนละ 1 แต้มกับสเปอร์ ดัง 3 เกมที่เหลือหากซิตี้ของเป๊ปเกิดพลาดทำแต้มหลุดมือ มีความเปิดไปได้ที่เกมเพลย์ออฟครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกจะถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เกมดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันวันแข่งขันแต่อย่างใด เพราะหลาย ๆ ฝ่ายเข้าใจกันว่าโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็นับว่าไม่สนิทเสียทีเดียว หากมันเกิดขึ้นจริงคาดว่า โปรแกรมการแข่งขันเกมประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้น 3 วันก่อนเกมชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนลีก หรือ 28 พฤษาภาคม

สำหรับเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดเกมเพลย์ออฟประวัติศาตร์ได้นั้น ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องเก็บแต้มให้ได้มากกว่า แมนฯซิตี้ 3 แต้ม หลังจบ 38 เกม หมายความลูกทีมของเป๊ป กวาดิโอล่าต้องแพ้อย่างน้อย 1 เกมนับจากนี้ ขณะเดียวกันลูกทีมของคล็อปป์จำเป็นต้องยิงประตูให้มากกว่าซิตี้ 2 ลูก และเสียประตูได้ไม่เกิน 2 ลูก ดังนั้นคล็อปป์จำเป็นต้องแช่งให้ซิตี้ทำแต้มหล่นแพ้ 2-1 เกมใดเกมหนึ่ง และพวกเขาจำเป็นต้องชนะด้วยสกอรไม่เกิน 1-0 ดังนั้นในส่วนของลิเวอร์พูลพวกเขาจำเป็นต้องยิงเพิ่มให้ได้ 4 ลูก จำเป็นต้องเอาชนะวิลล่าและเซาแธมป์ตันแบบไม่เสียประตูยิ่งดี

หากเงื่อนไขทั้งหมดเกิดขึ้นจริง ทั้ง 2 ทีมจำเป็นต้องลงแข่งขันเพื่อตัดสินผู้ชนะแบบตัวต่อตัว ในรอบเพลย์ออฟครั้งประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก คาดว่าเจ้าภาพจัดการแข่งขั้นดูเหมือนจะเป็นโอล์ด แทร็ฟฟอร์ดของยูไนเต็ด วันที่ 25 พฤษภาคม อย่างไรก็ตามเกมดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อลิเวอร์พูล เนื่องจากอีก 3 วันต่อมาพวกเขาต้องลงเล่นนัดชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนลีกที่สตาด เดอ ฟรองซ์ ฝรั่งเศสกับเรอัลมาดริด 28 พฤษภาคม

ติดตามผลบอล : เว็บผลบอล

ติดตามฟุตบอลเพิ่มเติม : ทรรศนะบอล